ความเครียดเป็นพลังงานที่ต้องรับรู้สัมผัสเพื่อให้เกิดการไหลเวียน
การพยายามควบคุมความเครียด มักเป็นที่มาให้เกิดพฤติกรรมการเสพติด กลายเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง เพื่อคลายเครียด เช่น
การช้อปปิ้ง การกดปุ่มซื้อสินค้าออนไลน์ การกินมากเกินไป การอยากกินของหวาน การใช้เงินเกินตัว การติดมือถือ แอลกอฮอล์ บุหรี่ เซ็กซ์ โซเชียลมีเดีย เกมส์ ซีรี่ย์ ยานอนหลับ ยาแก้ปวด งาน การทำตัวยุ่ง การเก็บสะสมสิ่งของ ศัลยกรรมความงาม
การเสพติดไม่ได้ผิดอะไร ถ้ารู้จักใช้บรรเทาความเครียดเพียงชั่วคราว แต่ในระยะยาว การหันมาทำความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกที่คั่งค้างอยู่ภายใน และเต็มใจที่จะรู้สึก เพื่อคัดกรองข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากอารมณ์ความรู้สึกมาเป็นเบาะแสในการเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
การบอกเล่าเรื่องราวของความยุ่งเหยิงในจิตใจออกมาเป็นคำพูดที่เข้าใจง่าย จะช่วยทำให้สมองรับมือกับเหตุการณ์ที่สร้างความตึงเครียดในครั้งต่อไปได้ง่ายขึ้น
ส่วนกำแพงทางความคิดที่พบบ่อยในการพัฒนาสมรรถนะในการจัดการความเครียด คือ
“ความเครียดเป็นสิ่งไม่ดี”
“อยากให้ความเครียดหายไปเร็วๆ”
“พยายามไม่เครียด”
“อารมณ์ลบเป็นสิ่งไม่มีประโยชน์”
พฤติกรรมการเสพติดต่างๆช่วย ทำให้ไม่ต้องรู้สึกถึงความเครียดในร่างกาย แต่ความตึงเครียดที่ถูกกดทับไว้จะไม่หายไปไหน แถมยังก่อปัญหาสุขภาพร่างกายและจิตใจ แต่ข้อดีของการรับมือกับความเครียดด้วยการเสพติดพฤติกรรมต่างๆคือช่วยให้จิตใจรู้สึกดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วทันใจ
การรู้จักทบทวนตัวเอง ผ่านการตั้งคำถาม
“พฤติกรรมการเสพติดช่วยให้รู้สึกดีได้อย่างไร?”
“มีอารมณ์ความรู้สึกใดที่ถูกระงับไว้?”
“แล้วจะรับมือความเครียดที่เกิดขึ้นให้ต่างออกไปจากเดิมได้อย่างไร?”
มาคลายปมความเครียดที่ฝังลึกอยู่ในความคิดและร่างกาย
กรองสิ่งกระตุ้นความเครียดที่ไม่มีความสำคัญออกไป ลดความเครียดส่วนเกินในชีวิต
มองเห็นเสน่ห์ของความเครียดตามธรรมชาติที่ช่วยให้จิตใจเกิดความกระตือรือร้น มีสมาธิ จดจ่อกับเป้าหมายที่สำคัญ
Комментарии